• 29 มิถุนายน 2018 at 12:21

Honda Civic & CR-V  Fuel Challeng

กับเส้นทาง กรุงเทพ-น่าน-หลวงพระบาง เมืองคู่แฝดทางวัฒนธรรม

 

                  บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดให้มีการทดสอบรถสองรุ่น Honda Civic & CR-V Fuel Challeng กับเส้นทาง โหด มันส์ ฮา  ความสนุกเร้าใจจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า   ในเช้าตรู่วันแรกของการเดินทาง บริษัทฮอนด้า นัดสื่อมวลชลรวมตัวกันที่ ศูนย์อบรมฮอนด้า บางชัน ซึ่งเป็นจุดปล่อยรถ เมื่อทุกคนมาพร้อมกันครบแล้ว ก็ได้มีการตรวจเช็คน้ำมันเชื้อเพลิงและเซ็นชื่อกำกับที่ฝาถังอันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รถแต่ละคันจะเติมน้ำมันต่างกัน ซึ่งแต่ละทีมจะไม่มีใครทราบเลยว่ารถแต่ละคันใช้น้ำมันอะไร การทดสอบครั้งนี้จะเป็นรูปแบบการแข่งขัน โดยจะแบ่งเป็นทีม ทีมละ 4 คน จำนวนรถ10คัน ช่วงแรกจากกรุงเทพ-น่าน จะใช้รถ Civic รุ่น 1.8 EAT เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร  และ 2.0 ลิตร เป็นตัวแรกในการทดสอบ ซึ่งเจ้า Civicตัวใหม่นี้สามารถใช้น้ำมัน E85 ได้ ภายในห้องโดยสารของ Civic มีดีไซน์ที่เรียบหรู กว้างขวาง มีฟังก์ชั่นที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ


                 

                  ได้เวลาสื่อมวลชนแยกย้ายกันขึ้นรถทีมใครเป็นทีมใครจะมีวิธี และศาสตร์ทักษะในการขับกันอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละทีม แต่การทดสอบ Civic ในรูปแบบประหยัดน้ำมันครั้งนี้น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ของสื่อมวลชนทุกคน ทำให้รู้สึกได้เลยว่า การทดสอบครั้งนี้จะสนุกตื่นเต้นและลุ้นกันขนาดไหน ทีมงานฮอนด้า เริ่มสะบัดธงปล่อยรถออกทีละคันตามลำดับ เส้นทางที่ใช้ในการทดสอบเราจะวิ่งเส้นสายเอเซีย ขึ้นทางเหนือ จะผ่านจังหวัด นครสวรรค์ พิษณุโลก แพร่  แล้วเข้าสู่เมือง100 วัด นั้นก็เมืองน่าน นั่นเอง เราขับโดยใช้ความเร็วประมาณ 80-100 กม/ชม. ตลอดเส้นทางสภาพถนนส่วนใหญ่จะเป็นทางเรียบขรุขระบ้าง ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการขับขี่แต่อย่างใด เราได้เข้าจอดพักที่ปั้ม ปตท พักดื่มกาแฟ ลงเวลาและเล่นเกมเล็กๆน้อย กับทีมงานฮอนด้าอย่างสนุกสนาน คะแนนได้น้อยได้มากขึ้นอยู่กับดวงจริงๆ



                                                                        

          เราเริ่มเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่จังหวัดน่าน สภาพถนนส่วนใหญ่จะเป็นเนินเขาและมีทางโค้งบ้างสลับกันซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใดอีกเช่นเคย พูดง่ายๆเลย ขับสบายๆแบบชิลๆ แต่ก็ยังอยู่ในช่วงของการแข่งขันอยู่  ซึ่งแต่ละคันก็ทำเวลาได้ดีไม่ยอมแพ้กันเลย บางคันก็มีวิ่งออกเส้นทางบ้างอาจทำให้เสียคะแนนได้  เมื่อถึงจุดสิ้นสุดการทดสอบที่บริษัทฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด  เราใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง รวมเป็นระยะทาง 670 กิโลเมตร และได้มีการวัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของรถทั้งหมด 10 คัน ซึ่งผลการแข่งขันพบว่า รถ Civic ที่เติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีกว่า แต่รถ Civic ที่เติมน้ำมัน E85 มีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า  หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบกันเรียบร้อย เราได้ร่วมรับประทานอาหารเย็นในรูปแบบขันโตก  ฟังเพลงบรรเลงสไตล์ชาวเหนือ ท่ามบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่นและอย่างเป็นกันเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ม่วนอ๊กม่วนใจ๋ขนาด ก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกันเข้าห้องพักเพื่อตื่นมาเจอสิ่งท้าทายที่รอเราอยู่เบื้องหน้า


                                                                                            


                  เช้ามืดวันที่สองสภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่มีฝนตกปรอยๆอากาศเย็นสบายๆ สื่อมวลชนมารวมตัวกันที่ห้องโถงของโรงแรมเพื่อทานอาหารเช้ารองท้องกันนิดหน่อย  เพื่อเตรียมตัวที่จะลุยต่อกับ All-New CR-V  จำนวน 10 คัน มีทั้งหมด 4 รุ่น คือ รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร ในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน4 ล้อ โดยเส้นทางนี้จะวิ่ง จากน่าน สู่ หลวงพระบาง สปป ลาว ระยะทาง365 กิโลเมตร วันนี้จะขับในรูปแบบคาราวาน แต่ก็ยังแข่งขันอีกตามเคย และมีเกมส์ให้เล่นในรถ ทางทีมงานฮอนด้าได้แจกตัว clicker ไว้ให้แต่ละทีมนับโค้งเมื่อเข้าสู่เขต สปป. ลาว  เมื่อขบวนคาราวานเริ่มเคลื่อนตัว โดยจะเรียงตามหมายเลขเพื่อความปลอดภัย ตลอดเส้นทางมีหมอกลงประปราย ดูแล้วเส้นทางข้างหน้าจะมีความท้าทายรอพวกเราอยู่

 
                                                                              


                  เมื่อผ่านประตูชายแดนไทย-ลาว ภารกิจนับโค้งก็เริ่มขึ้น การขับขี่ในลาวจะต้องขับชิดเลนขวาอาจจะต้องใช้ความชำนาญกันเล็กน้อย เพราะเรามั่นใจกับเจ้า All-New CR-V 4x4ว่าจะไม่ทำไห้เราผิดหวังกับเส้นทางที่แสนจะหฤโหด พาเราตะลุยฝ่าผันอุปสรรคต่างๆ มาอย่างง่ายดาย  ตลอดเส้นทางเป็นถนนที่คดเคี้ยวตามแนวภูเขาที่ทอดต่อเรียงกันหลายลูก ทำให้รถบางคันมีลูกทีมถึงขั้นกับขอจอดรถอ้วก ดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องตลกแต่มองอีกมุมน่าจะเป็นสีสันและประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ  ตลอดเส้นทางที่มีต้นไม้และวิวที่สวยมากสลับกับหมู่บ้านเล็กๆของชาวลาวที่อาศัยอยู่กันอย่างน่ารัก ช่างภาพเห็นแล้วทนไม่ได้ที่จะหยิบกล้องตัวโปรดมากดชัตเตอร์อย่างรัวเพีื่อเก็บภาพที่หาดูได้ยากไม่ว่าจะเป็นหมูดำที่มีลูกเป็นฝูงเดินข้ามถนนทำอย่างกับเป็นเจ้าของถนน บอกได้เลยเป็นภาพที่ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ มองสองข้างทางเพลินๆไม่นานนัก เราก็ได้มาถึงจุดรับประทานอาหารกลางวันกันที่เมืองไชยะบุรี เราใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง กับระยะทาง 155 กิโลเมตร


                                                                              

 

                  ความสนุกยังคงรอเราอยู่ข้างหน้า ขบวนรถทุกคันมุ่งหน้าเดินทางต่อไปยังเมืองนาน เพื่อข้ามแพขนานยนต์ ถนนอีกฝั่งจะเป็นโคลนเนื่องจากฝนตกแถมถนนยังอยู่ในช่วงปรับปรุงอีก แต่ก็ทำให้เราได้สัมผัสสมรรถนะของเจ้าAll-New CR -V 4x4 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตลอดเส้นทางจะมีความตื่นเต้นท้าทายรอเราอยู่ทำให้สมาชิกในรถไม่มีใครสามารถที่จะแอบงีบได้เลย  และแล้วเราก็มาถึงจุดสิ้นสุดการแข่งขันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. เมืองหลวงพระบาง เพื่อเติมน้ำมันและวัดอัตราการสิ้นเปลือง รวมแล้วใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมง และผลนับโค้งก็ได้ถึง 1200 กว่าโค้ง ส่วนผลการแข่งขัน อัตราสิ้นเปลืองน้ำม้นของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่การใช้น้ำมัน E85 มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เมื่อสิ้นสุดการแข่งขัน ก็ได้เข้าพักที่โรงแรม Le Parais Juliana เพื่อพักตามอัธยาศัย และร่วมรับประทานอาหารเย็นอย่างเป็นกันเอง พร้อมฟังประกาศผลการแข่งขัน โดยมีคุณ พิทักษ์ พฤทธิสาริกรประธานอาวุโส และคุณสมภพ ปฎิภานธาดา ผู้จัดการส่วนการตลาด ได้ให้การต้อนรับและมอบรางวัลพร้อมทั้งของที่ระลึกแก่สื่อมวลชลทุกท่าน  แล้วแยกย้ายกลับห้องพักเพื่อเก็บแรงไว้วันต่อไป



                                                                              

 

                   ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้หากมาเยือนหลวงพระบางคือ การทำบุญตักบาตรข้าวเหนียวและอาหารแห้ง ก่อนรุ่งสางของทุกวัน แถวอนุสาวรีย์ท้าวไกรสรจะมีพระสงฆ์เรียงแถวเดินตามถนนเป็นร้อยๆรูป ถือเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลาวงพระบาง ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของสังคมอันสงบสุขและความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาที่หยั่งรากลึงลงในวัฒนธรรมชาวล้านนา จากนั้นก็ไปทานอาหารเช้ากันที่ร้านประชานิยมซึ่งอยู่ริมโขงบรรยากาศดีมาก และยังได้เดินชมตลาดเช้า ที่เป็นสไตล์ชาวบ้านที่วางขายแบบปูพื้นริมถนน ส่วนใหญ่จะเป็นของกินที่หายาก   อาทิ  ตัวต่อดินตากแห้ง ตัวแลนตากแห้ง หมูป่า ตัวอ้น งูเห่าแบบสดๆ และยังมีของพื้นเมืองที่น่าจะเป็นของฝากที่น่าซื้อที่สุดแล้ว จากนั้นแวะไปเยี่ยมชมพิพิธพันฑ์พระราชวังหลวงเจ้ามหาชิวิตของลาวที่ตั้งอยู่กลางเมือง และไปเยี่ยมชมอีกแห่งคือวัดเชียงทอง ที่เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบาง เป็นวัดที่สวยงามมากกว่าวัดอื่นๆมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญมากมาย


                 

          หลังจากนนั้นเราก็เดินทางต่อ เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน Pham Sai Hong หลวงพระบางกันแล้ว แล้วออกเดินทางต่อไปยังหลวงน้ำทา  เมืองที่มีพรมแดนติดกับประเทศจีน ระยะทางประมาณ 390 กิโลเมตร  ตลอดเส้นทางเราก็ยังเจอถนนที่คดเคี้ยววิ่งตามไหล่ทางตลอดเส้นทาง แต่สำหรับAll-New CR-V 4x4 สารถีสุดหล่อคันนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง นำพาทีมเรามาถึงยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย ที่โรงแรมรอยัล หลวงน้ำทา  3 วันกับเส้นทางวัดใจของผู้ขับแต่ละคน คงต้องบอกได้คำเดียวว่า  มีทั้งความมันส์ ความสนุก ความเครียด  มารวมกัน นั้นก็คือบททดสอบที่ทาง บริษัท ออนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดขึ้นให้กับคณะสื่อมวลชนในครั้งนี้


 

                  เมื่อรถทุกคันเข้าจอดประจำที่  สัมผัสแรกที่ทุกคนรอคอยอากาศที่เย็นสบาย ด้วยอุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส ถือเป็นการต้อนรับพวกเราได้อย่างดีทีเดียว เพราะอากาศแบบนี้คงหาได้ยากในเมืองกรุงเทพฯ   เป็นอันจบทริปที่วิเศษที่สุด หลังจากได้ผ่านอุปสรรคต่างๆ  และสิ่งที่ได้จากทริปนี้เห็นจะเป็นประสบการ์ณดีๆ ที่ฮอนด้ามอบให้กับพวกเรา  ต้องขอขอบคุณบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ดูแลคณะเป็นอย่างดี



    

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2