• 29 มิถุนายน 2018 at 12:20

               

เมื่อความประหยัดมาในคราบสปอร์ต อะไรจะเกิดขึ้น?

                คำว่าไฮบริดคงไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับคนไทยอีกต่อไป เมื่อทางโตโยต้าประเทศไทย นำเทคโนโลยีนี้ส่งผ่านพริอุสถึงมือคนไทยเรียบร้อย



ผมเองยอมรับในความตื่นเต้นที่บ้านเราจะมีรถยนต์ไฮบริดมาใช้กัน ปัญหาแรกที่ถกเถียงกันเรื่องของระบบไฟฟ้ามันน่าจะรวนหรือเปล่าชั่วโมงนั้นหลายคนก็สงสัย แต่ผ่านมาถึงวันนี้คำถามเริ่มบางเบาเหมือนฝุ่นล่องลอย จากเวลาเป็นปีบนถนนยานยนต์ในประเทศไทย พรีอุสได้รับความสนใจและถูกครอบครองรวดเร็วจากผู้ที่ชื่นชอบความประหยัดเป็นพื้นฐาน ต่างประเทศก็เช่นกันด้วยยอดจำหน่ายกว่า 2,700,000 คันทั่วโลก ด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัยทั้งภายในและภายนอก เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผสานการขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ไร้ซึ่งมลภาวะทางเสียง

                และในเวลาต่อมาเมื่อยอดขายเดินหน้าตามแผน รอบสองในโฉมสปอร์ตของเมืองไทยจึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นการฉลองครบ50ปีไปด้วยกลายๆ แต่ประเด็นหลักน่าจะเป็นการขยายกลุ่มผู้ใช้ให้กว้างขึ้น อย่างน้อยคนชอบความเข้มขรึมเมื่ออยู่บนท้องถนน ก็สามารถจะขับมันไปได้บนท้องถนนด้วยความมั่นใจ

พริอุส รุ่นพิเศษ PRIUS TRD Sportivo ใหม่ ที่มาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคันทั้งภายนอกและภายใน มันโฉบเฉี่ยวเกินใจจะห้ามคิดครอบครอง ชุดแต่งก็เป็นของสำนักดังคู่บุญของโตโยต้า สำหรับ TRD ไม่ได้ทำแค่พริอุสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอีกหลายรุ่นของโตโยต้า

ไล่กันมาตั้งแต่ด้านหน้าที่เปลี่ยนไปมันเข้มด้วยสเกิร์ตกันชนด้านหน้าพร้อมสปอร์ตไลต์  สเกิร์ตกันชนหลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ แบบ Smoke Chrome คม เข้ม เร้าใจ ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55/R16 ทั้งยังเสริมความโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ “TRD Sportivo”… ในด้านข้าง และด้านหลัง ด้านหลังจะปั๊มเป็นตัวโลหะ ด้านข้างจะเป็นลายสติ๊กเกอร์

                เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร มาพร้อมเทคโนโลยี Atkinson Cycle และระบบควบคุมการหมุนเวียนไอเสีย EGR(Exhaust Gas Recirculation) ที่มีการติดตั้งระบบระบายความร้อน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมมลภาวะจากไอเสีย พร้อมระบบวาล์วอัจฉริยะ VVT-i เพื่อสมรรถนะการขับขี่ที่ประหยัดคุ้มค่า รหัส 2ZR – FXE / 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-i 1,797 ซีซี แรงม้าสูงสุด 73 กิโลวัตต์ (99 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที

 

เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) ที่พัฒนาระบบเกียร์ทดกำลังให้มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบายิ่งขึ้น แต่สามารถรองรับการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้นที่กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ (82 แรงม้า) พร้อมแรงบิดสูงสุด 207 นิวตัน-เมตร โดยมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ตอบสนองการเร่ง ด้วยการเสริมพลังไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน นอกจากนี้ก็จะมี Power Control Unit ทำหน้าที่ควบคุมไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่ และไฟฟ้ากระแสสลับจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม พร้อมช่วยขยายกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ได้สูงถึง 650 โวลต์ และแบตเตอรี่ไฮบริด Ni-MH (Nickel–Metal Hydride) ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทำให้แบตเตอรี่ไฮบริดมีน้ำหนักเบาขึ้น ทนทานยิ่งขึ้น อัตราเร่งทำได้ดีเมื่ออยู่ในโหมดสปอร์ต(Power) กดคันเร่งเมื่อไหร่มีกำลังให้ใช้กันเหลือเฟือ ขับสนุกเมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย ไม่ปฏิเสธ

 

                ขณะเดียวกันเวลาใกล้เคียงเปลี่ยนมาเป็นโหมดประหยัด(ECO) ปลายนิ้วกดลงไปเบาๆ            ไฟเขียวติดแสดงสัญลักษณ์บนแผงหน้าปัด ความเร็วไม่ลดลงแต่การตอบสนองช้าลง ความเร็วไม่ปรี๊ดเหมือนโหมดเพาเวอร์ อัตราเร่งเพิ่มขึ้นอย่างไม่รีบร้อน ผ่านไปได้สักหน่อยความเร็วปลายมันก็มาอยู่ในระดับเดียวกัน ในโหมดนี้จะต่างกันเพียงรอบต้นๆเท่านั้นเอง ในย่านความเร็วสูงมากมันทำให้ความรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ช่วงล่างแทบไม่มีอาการที่จะทำให้เหนื่อยใจ ควบคุมง่าย 

ภายในใช้เบาะหนังสีดำใหม่ พรมปูพื้นลายพิเศษพร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo รวมถึงชุดเครื่องเสียงใหม่ รองรับDVD/CD/MP3/WMA หน้าจอสัมผัส พร้อมช่องเสียบอุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ Smart Phone และรองรับบริการพิเศษจาก Toyota Smart G-BOOK

ประทับใจหลังขับคือเรื่องของช่วงล่างทำงานได้หนึบแน่น การเก็บเสียงภายในต้องให้สิบคะแนนเต็ม อารมณ์การขับไม่เหมือนรถญี่ปุ่นที่คิดไว้...เครื่องเสียงหนักแน่นกว่าเดิม ที่สำคัญความประหยัดทำได้เหลือเชื่อ แต่เสียดายไม่มีเซ็นเซอร์ถอยหลังมาให้เบาะฝั่งซ้ายปรับแมนนวลไม่มีไฟฟ้ามาให้แต่ภาพรวมด้านอื่นคุ้มครับ..

                พริอุส รุ่นพิเศษ PRIUS TRD Sportivo มี 3 สีให้เลือกWhite Pearl Crystal ,Attitude Black Mica, Red Mica Metallic สนนราคา 1,269,000 บาท (สำหรับสี White Pearl Crystal เพิ่ม 10,000บาท)

 
 
  

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2