• 29 มิถุนายน 2018 at 12:20

เรื่อง/ภาพ: ปิยวัฒน์ จิตมา

Suzuki SX4

ตัวเลือกใหม่ของการเดินทาง

“เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย รู้สึกได้ว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม”

เป็นอีกรุ่นที่ได้รับไฟเขียวให้เข้ามาโลดแล่น อยู่บนถนนเมืองไทย ภายใต้สังกัดของ ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง ถึงแม้จะไม่นานนักในการลุกขึ้นมาสร้างแบรนด์ หลังจากที่เคยได้รับการยอมรับอย่างดีในรุ่นพี่อย่าง คาริเบียน ออฟโรดคานแข็งไซส์เล็ก ถึงแม้เวลาจะผ่านไปแต่เราก็ยังจะเห็นรถรุ่นนี้วิ่งให้เห็นทั้งในสนามออฟโรด และบนท้องถนน แสดงให้ถึงความแข็งแรงของตัวรถได้อย่างดี

เมื่อเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน ก็ได้เวลาหวนสู่ตลาดอีกครั้ง และในครั้งนี้ดูกระแสจะแรงกว่าทุกครั้ง ด้วยการเปิดไลน์หลายรุ่นพร้อมกันซึ่งรวมถึง Suzuki SX4 ด้วยเช่นกัน เมื่อปลายปีที่แล้วในมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งที่ผ่านมา ได้มีการเผยโฉมให้เห็นกันแล้วหนึ่งรอบ นับเป็นการแนะนำแบบไม่เป็นทางการ แต่ในปีนี้ทางซูซูกิ เมนูแฟคเจอร์ริ่ง ได้นำเข้ามาขายในประเทศเราอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เราก็ได้มีโอกาสได้นำมาทดสอบเป็นครั้งแรกเช่นกัน

ถึงจะไม่โฉบเฉียวด้วยเส้นการออกแบบ แต่ความเรียบง่ายของเขาก็มีเสน่ห์ชวนมองอยู่ไม่น้อย ด้วยความที่เป็นรถประเภท ครอสโอเว่อร์ คือนำเอาความโดดเด่นของรถ เอสยูวี มาผสมด้วยความเด่นของคอมแพ็คคาร์ จนทำได้อย่างกลมกลืนและลงตัว สะท้อนความเป็นครอสโอเวอร์ได้สมบูรณ์แบบ เริ่มกันตั้งแต่ด้านหน้ารถ ไฟหน้าและกระจังหน้าสปอร์ต กลมกลืนกับกันชนหน้าและคิ้ว ไฟหน้าแบบ HID ใหม่ จากซูซูกิ 

ส่วนจุดสำคัญที่มาเพิ่มให้หน้าตาดูสปอร์ตมากขึ้นเพื่อลบเลือนความเรียบง่ายรอบคัน คือคิ้วสปอร์ตสีดำรอบคันตั้งแต่กันชนหน้า เลยไปถึงซุ้มล้อ กาบข้างด้านหลัง ไปจนถึง Under Skirt กันชนท้ายได้รับการออกแบบอย่างลงตัวและกลมกลืนสไตล์ X-over โค้งมนไม่แข็งกระด้างในการออกแบบ ให้ความรู้สึกท้าทายต่อสายตาทุกสภาวะ ตัวรถสูงสไตล์เอสยูวี เพิ่มให้ทัศนวิสัยที่ดียามขับขี่ พร้อม Roof Rails สปอร์ต อเนกประสงค์เหมาะสำหรับครอบครัวหรือบุคคลที่รักการเดินทางท่องเที่ยว ถ้าหากมองผ่านๆโดยรอบแล้ว อาจจะไม่สะดุดตาเท่าที่ควรแต่ถ้าหากพิจารณากันแล้ว วิศวกรผู้ออกแบบเขายังได้ซ่อนเอาความสปอร์ตไว้เช่นกัน

   

เปิดเข้ามานั่งภายในห้องโดยสารยังคำนึงถึงความสะดวกสบาย ให้เข้ากับความอเนกประสงค์ กระจกเมื่อมองผ่านจากห้องโดยสารดูกว้างและสูงเป็นพิเศษ รู้สึกได้ว่าไม่อึดอัดอีกทั้งให้ความรู้สึกโปร่ง และเมื่อได้จับพวงมาลัย เป็นแบบแร็คแอนด์พิเนียน พร้อมพาวเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPS หรือ Electronic Power Steering รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร ยิ่งรู้สึกได้ว่าทุกอย่างมันอยู่ภายใต้การควบคุมของเราทั้งหมด อาจรวมถึงการเซ็ตอัพช่วงล่างด้านหน้าที่เป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท อิสระ พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง ให้เกาะถนนและหนึบ ไม่มีอาการสะบัดหรือโคลงในขณะเลี้ยวโค้ง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลังได้รับการออกแบบให้มีความสูงเพื่อเปิดทัศน์วิสัยที่ดีให้กับทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร ขาไม่งอนั่งได้สบายพนักพิงไม่ตั้งเกินไปต่างจากหลายรุ่น ที่มีอยู่ในท้องตลาด

นอกจากนี้ยังเพิ่มความอเนกประสงค์ สไตล์ X-over ด้วยความจุห้องเก็บสัมภาระ 530 ลิตร เบาะหลังสามารถพับแบบ 60: 40 หรือพับเก็บทั้งตัวและสามารถปรับพับเบาะได้หลากหลายแบบตามความต้องการ พร้อมความสะดวกด้วยประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า

สิ่งอำนวยความสะดวกยัง เพียบพร้อมไปด้วย พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้านพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ทำให้ง่ายต่อการสั่งการโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง 9 ลำโพง พร้อมระบบปรับความดังเครื่องเสียงอัตโนมัติ (AVC หรือ Auto Volume Control) อเนกประสงค์กับช่องใส่สิ่งของและสัมภาระ รวมทั้งที่วางแก้วน้ำถึง 7 จุด ช่วยเกิดความสะดวกสบายมากขึ้น

ทางด้านเครื่องยนต์ใช้รหัส M16A 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,586 ซีซี.กระบอกสูบ x ช่วงชัก 78.0 x 83.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 หัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ Multi-Point MPI พร้อมระบบแปรผันวาล์วที่หัวแคมชาฟต์ VVT แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร (15.28 กก.-ม.) ที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งผ่านกำลังลงสู่ 2 ล้อหน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ซึ่งจากการที่ได้ทดสอบก็รู้สึกได้ถึงการตอบสนองได้พอตัว แต่ก็อาจจะยังไม่ถึงที่สุดในการเร่งแซง อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงจากตัวเลขที่เคลมจากแผงเรือนไมล์ ได้11.4 กม. ลิตร (อัตราการประหยัดขึ้นอยู่กับพฤติกรรมผู้ขับ)

ด้านความปลอดภัย มั่นใจด้วยโครงสร้างนิรภัย (Suzuki Safety-engineered Body) โครงสร้างด้านหน้า และกันชนจะช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านหน้า พร้อมติดตั้งคานเสริมรับแรงกระแทกด้านข้างที่ประตูหน้า-หลัง ได้รับการทดสอบจากโรงงานมาอย่างดี ระบบเบรกหลังดิสก์ ส่วนด้านหน้าดิสก์ แบบมีช่องระบายความร้อน พร้อมระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า (SRS) และระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ช่วยป้องกันการโจรกรรม

จากการที่ได้ทดลองขับแล้ว มีความรู้สึกได้ว่ารถคันนี้มีความคล่องตัวมากพอตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงการจราจรที่หนาแน่นหรือในซอยเล็ก อัตราการเร่งทำได้น่าพอใจแต่อาจจะไม่ได้ดั่งใจเหมือนรถที่มีบอดี้เล็กๆ ทั่วไป แต่อีกจุดที่น่าประทับใจคือเรื่องของความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารถือว่าเขาออกแบบมาได้ดีเหมาะสำหรับการเดินทางไกล ใครสนใจลองสอบถามข้อมูลได้ที่ตัวแทนจำหน่ายซูซูกิทุกสาขา

ซูซูกิ เปิดราคาจำหน่าย Suzuki SX4 อย่างเป็นทางการ 799,000 บาท มีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีขาว – Pearl White (เพิ่ม 5,000 บาท), สีเงิน – Purplish Silver Pearl M, สีส้ม – Sunlight Copper Metallic, สีแดง – Radiant Red, สีน้ำเงิน – Kashmir Blue Pearl Metallic และ สีดำ – Cool Black Metallic 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2