• 29 มิถุนายน 2018 at 12:19




บทสรุปการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาล
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลที่ประเทศบาห์เรน หลายๆทีมยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายๆทีมที่ยังคงแก้ปัญหาเดิมๆไม่ได้เสียที แถมยังมีปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามาให้ปวดหัวยิ่งกว่าเดิม...






นับตั้งแต่การทดสอบวันแรกที่เฆเรซ(ประเทศสเปน) เห็นได้ชัดว่าเมอร์เซเดสมีแพ็กเกจรถที่ค่อนข้างพร้อมและเหนือกว่าใครเลยทีเดียว โดยตลอดปี 2013 ที่ผ่านมาก็มีข่าวหลุดออกมาว่าระบบเครื่องยนต์ของพวกเขาล้ำหน้ากว่าคู่แข่งอย่างเฟอร์รารี่และเรโนลต์มาก และเมื่อดูจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็ดูเหมือนคำกล่าวนั้นจะเป็นจริง แต่ถึงอย่างนั้นเมอร์เซเดสเองก็ใช่ว่าแกร่งจนไม่มีที่ติ จากการทดสอบที่บาห์เรนครั้งสุดท้ายพวกเขาเริ่มพบปัญหาอยู่บ้างซึ่งต้องแก้ไขต่อไป






ทีมวิลเลียมส์หลังจากปรับปรุงโครงสร้างทีมขนานใหญ่ โดยเฉพาะการเข้ามาของแพท ไซมอนส์ และบุคลากรคนสำคัญด้านเทคนิคอีกหลายคน วิลเลียมส์ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามาปีนี้รถของพวกเขาเป็นหนึ่งในรถที่น่าจับตามองจากช่วงทดสอบที่ผ่านมาด้วยทั้งมีความเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฟลิเป้ มาสซ่า เป็นผู้ทำเวลาเร็วที่สุดในบาห์เรนจากการรวมเวลาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ความกังวลใจเดียวของพวกเขาคือเมื่อวาลท์เทรี่ บอตทาส จอดกลางแทร็คในการทดสอบวันสุดท้าย






ทางด้านเฟอร์รารี่ อาจถือได้ว่าเป็นทีมที่อ่านได้ยากที่สุดทีมหนึ่งจากการทดสอบที่ผ่านมา F14 T ดูแข็งแกร่งแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง ทั้งนักขับของทีม เฟอร์นันโด อลอนโซ่ และคิมี่ ไรค์โคเน่น ก็เป็นมือระดับแชมป์โลก แต่หากดูเฉพาะสมรรถภาพของเครื่องยนต์แล้วยังอาจนับว่าอยู่ในระดับกลาง คือไม่มีปัญหาหนักใจมากเท่าเรโนลต์ แต่ไม่ดีพอเทียบเท่ากับเมอร์เซเดส







สำหรับหนทางของแม็คลาเรนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสักเท่าไหร่ เมื่อมาถึงบาห์เรนพวกเขาต้องเจอกับเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ แม้ในตอนแรก เจนสัน บัตตัน จะกล่าวว่า MP4-29 มีศักยภาพอีกมาก แต่ต่อมาแชมป์โลกปี 2009 ยอมรับว่าพวกเขามีงานให้ปรับปรุงอีกมากมาย จริงอยู่ว่าแม็คลาเรนอยู่ในจุดที่ดีกว่าปี 2013 หากแต่เมื่อพูดกันตามจริง พวกเขาอาจยังไม่ดีพอที่จะคว้าแชมป์ในสนามแรกของฤดูกาลมาได้







มาที่ทีมเร้ดบูล หลังจากคว้าแชมป์โลกทั้งประเภทนักขับและทีมผู้สร้างมา 4 สมัยซ้อน การแข่งขันในปี 2014 ดูจะเป็นงานที่ท้ายทีมจากออสเตรียมากที่สุด อย่างที่เราทราบกันแล้วว่าเครื่องยนต์เรโนลต์มีปัญหามากมาย การออกแบบ RB10 ของเอเดรียน นิวอี้ ยิ่งเป็นปัจจัยความไม่เสถียรของรถมากขึ้นไปอีก จากการที่แพ็กเกจรถกะทัดรัดมากเพื่อผลสูงสุดทางด้านแอโรไดนามิกส์ เรื่องการระบายความร้อนและปัญหาด้านเทคนิคอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อลงวิ่งในสนามจึงเป็นสิ่งที่ทีมต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน






ปิดท้ายกันที่ทีมโลตัสซึ่งอาจกล่าวได้ว่าโลตัสเป็นทีมที่ตามหลังผู้อื่นอยู่มากพอสมควร นอกจากพวกเขานำรถลงซ้อมช้าไปกว่าทีมอื่นแล้ว การที่ใช้เครื่องยนต์เรโนลต์ก็ทำให้ประสบปัญหาไม่ต่างจากทีมต่างๆ ที่ใช้เครื่องเดียวกัน พวกเขาลงวิ่งได้รอบน้อย ซ้ำยังจอดเสียอีกหลายครั้ง โรแมง โกรส์ฌอง กับพาสเตอร์ มัลโดนาโด คงต้องหวังพึ่งปาฎิหาริย์ก่อนถึงการแข่งขันสนามแรกที่ใกล้เข้ามาเต็มที


สรุปผลการทดสอบจากบาห์เรน ครั้งที่ 2 วันที่ 4
1. เลวิส แฮมิลตัน         จากทีมเมอร์เซเดส          เวลา    1:33.278         70    รอบ
2. วาลท์เทรี่ บอตทาส     จากทีมวิลเลียมส์          เวลา     1:33.987       108   รอบ
3. เฟร์นานโด อลอนโซ่     จากทีมเฟอร์รารี่          เวลา    1:34.280         74    รอบ
4. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก     จากทีมฟอร์ซอินเดีย        เวลา     1:35.577        74    รอบ
5. ฌอง-เอริก แวนญ์     จากทีมโตโร รอสโซ        เวลา     1:35.701        74    รอบ


Story: Number9
Photo: www.f1fanatic.co.uk
Bahrain Test 2014

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2