F1 Chinese Grand Prix &  Bahrain Grand Prix 2015

มอร์เซเดสกลับมาในเส้นทางที่พวกเขาต้องการอีกครั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ทีมเก็บคะแนนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกครั้ง

สำหรับสนามที่ 3 ในรายการ Chinese Grand Prix (ไชนีส จีพี) ลูอิส แฮมิลตัน กลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้งแบบไม่ยากเย็น หลังจากสัญญาณไฟแดง 5 ดวงดับลง เขาออกนำกลุ่มไปอย่างง่ายดาย มีนิโค รอสเบิร์ก ตามหลังมาตลอดการแข่งขันในระยะที่ปลอดภัย ช่วงที่ใช้ยางซอฟต์ของเมอร์เซเดสทั้งสองคันอาจจะไม่ทิ้งขาดเซบาสเตียน เวทเทล ที่ตามมาในอันดับที่ 3 มากมายนัก แต่ก็ไม่เป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม เมื่อเปลี่ยนเป็นยางมีเดียมชุดสุดท้าย ทั้งแฮมิลตันและรอสเบิร์กก็ทิ้งขาดไปอย่างฉลุย

คิมี่ ไรค์โคเน่น สตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม เขาเบียดกับรถวิลเลียมส์ทั้งสองคันในโค้งแรกๆ จนกระทั่งขึ้นมาเกาะติดกลุ่มนำในอันดับที่ 4 เขาดูจะใช้ยางได้นุ่มนวลที่สุดในบรรดาผู้นำ ทำให้ได้เปรียบเพื่อนร่วมทีมจากการที่เปลี่ยนยางมีเดียมชุดสุดท้ายช้ากว่า 4 รอบ นักขับฟินน์ไล่เข้ามาใกล้เวทเทลจนมีสิทธิ์ที่จะแซงได้ใน 2 รอบสุดท้ายหากไม่มีเซฟตี้คาร์ออกมาเสียก่อน โดยเซฟตี้คาร์ต้องออกมานำการแข่งขันเนื่องจากรถของแม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น มีควันออกมาและต้องจอดบนทางตรงหน้าพิตขณะที่เขาวิ่งอยู่ในอันดับที่ 8 ซึ่งเท่ากับว่าการแข่งขันจบลงด้วยอันดับที่เป็นอยู่ก่อนช่วงเซฟตี้คาร์นั่นเอง

โลตัสได้คะแนนครั้งแรกของฤดูกาลจากโรแมง โกรส์ฌอง แต่เป็นเรซที่วุ่นวายสำหรับพาสเตอร์ มัลโดนาโด เขามีจังหวะหมุนหลุดแทร็คก่อนจะโดนเจนสัน บัตตัน ชนท้ายขณะเข้าโค้ง 1 ในรอบที่ 49 ชิ้นส่วนของรถทั้งสองคันหลุดกระเด็นออกมาเล็กน้อยและยังร่วมการแข่งขันได้ ต่อไป ซึ่งจังหวะนั้นเองที่เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ได้แซงเอาอันดับขึ้นไป ถึงอย่างนั้นก็เป็นการเข้าเส้นชัยของรถแม็คลาเรนทั้งสองคันเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้

ต่อกันด้วยสนามที่ 4 ในรายการ Bahrain Grand Prix (บาห์เรน จีพี) ลูอิส แฮมิลตัน คว้าชัยชนะในบาห์เรนเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันหลังนำการแข่งขันตั้งแต่โค้งแรก แม้รอบสุดท้ายจะมีแรงกดดันเล็กน้อยจากคิมี่ ไรค์โคเน่น ที่ไล่แซงนิโค รอสเบิร์ก ขึ้นมา รวมทั้งเบรกของเขาเริ่มมีปัญหา แต่ระยะทางที่เหลืออีกไม่กี่กิโลเมตรก่อนถึงเส้นชัยไม่ทำให้เขาต้องกังวลใจ มากนัก

ไรค์โคเน่นขึ้นโพเดียมครั้งแรกให้กับเฟอร์รารี่ในการกลับมาร่วมทีมเป็นรอบ ที่สอง และยังเป็นโพเดียมแรกของเขานับจากสิงคโปร์ 2013 นักขับฟินน์ออกตัวได้ดีและขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 ในรอบแรก แต่จุดสำคัญสำหรับผลงานของเขาวันนี้มาจากการเลือกใช้ยางมีเดียมเป็นชุดที่ 2 และเปลี่ยนช้ากว่ากลุ่มผู้นำด้วยกันประมาณ 3-4 รอบ ซึ่งในช่วงที่เขาใช้ยางมีเดียมก็สามารถทำเวลาไล่ขึ้นมาได้ดีเยี่ยม จนกระทั่งไล่มาถึงรอสเบิร์กด้วยยางซอฟต์ชุดสุดท้ายและแซงได้จากจังหวะที่นักขับเยอรมันหลุดกว้างออกไปที่โค้งแรกเมื่อเหลือการแข่งขัน 2 รอบ ทั้งนี้ รอสเบิร์กประสบปัญหาเรื่องเบรกในช่วงท้ายเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีม

วันนี้ไม่ใช่วันของเซบาสเตียน เวทเทล เขาสตาร์ทได้ดีและคงอันดับที่ 2 ไว้ได้ แต่ไม่นานก็โดนรอสเบิร์กที่เพิ่งแซงไรค์โคเน่นก่อนหน้านั้นไม่กี่รอบแซงเอา อันดับที่ 2 ไปได้ที่โค้ง 1 จากความผิดพลาดของเขาเอง เฟอร์รารี่แก้ไขสถานการณ์ด้วยการให้เวทเทลเข้าพิตก่อนรถเมอร์เซเดสเพื่อชิง ความได้เปรียบ ส่งผลให้เขาออกมาอยู่หน้ารอสเบิร์ก แต่ไม่นานก็โดนแซงคืนอีกครั้งบนทางตรงหน้าพิต ต่อมาเฟอร์รารี่ใช้แผนเดิมอีกครั้งในการเข้าพิตครั้งที่ 2 ของเวทเทล ซึ่งเป็นไปตามความต้องการ แต่ไม่นานรอสเบิร์กก็เข้ามากดดันจนเวทเทลหลุดโค้งสุดท้าย ทำให้รอสเบิร์กกลับขึ้นไปได้อีกครั้ง

สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 3

ประเภทนักขับ
1.ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 68 คะแนน
2.เซบาสเตียน เวทเทล (เฟอร์รารี่) 55 คะแนน
3.นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 51 คะแนน
4.เฟลิเป้ มาสซ่า (วิลเลียมส์) 30 คะแนน
5.คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่) 24 คะแนน

ประเภททีม

1.เมอร์เซเดส 119 คะแนน
2.เฟอร์รารี่ 79 คะแนน
3.วิลเลียมส์ 48 คะแนน
4.เซาเบอร์ 19 คะแนน
5.เร้ดบูล 13 คะแนน

 สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 4
ประเภทนักขับ
1.ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 93 คะแนน
2.นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 66 คะแนน
3.เซบาสเตียน เวทเทล (เฟอร์รารี่) 65 คะแนน
4.คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่) 42 คะแนน
5.เฟลิเป้ มาสซ่า (วิลเลียมส์) 31 คะแนน

ประเภททีม
1.เมอร์เซเดส 159 คะแนน
2.เฟอร์รารี่ 107 คะแนน
3.วิลเลียมส์ 61 คะแนน
4.เร้ดบูล 23 คะแนน
5.เซาเบอร์ 19 คะแนน

STORY: Shepherd Boy

PHOTO: www.f1fanatic.co.uk