• 29 มิถุนายน 2018 at 12:15

สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลมากยิ่งขึ้นกับช่วงล่างใหม่แบบ Monotube ของรถยนต์ฮุนได เอช-วัน

รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขับง่าย สะดวกสบายทุกเส้นทาง เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว

กิจกรรมในครั้งนี้ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนทดลองขับรถยนต์ ฮุนได รุ่นเอช-วัน แบบ One-day Trip บนเส้นทาง กรุงเทพฯ –อยุธยา รวมระยะทางทั้งสิ้น 142 กิโลเมตร เพื่อให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบระบบช่วงล่างใหม่ที่ติดตั้งในรถยนต์ฮุนได 2 รุ่น คือ ฮุนได เอช-วัน เดอลุกซ์ และ อิลีท ซึ่งเป็นออฟชั่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาให้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบความนุ่มนวล โดยช่วงล่างที่ติดตั้งมาใหม่ ประกอบด้วยชุดโช้คอัพและสปริงหลัง เป็นโช้คอัพชุดอัพเกรท ระบบ Monotube ที่ผ่านการรับประกันคุณภาพและทดสอบมาตรฐานจาก บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งจะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่ารุ่นมาตรฐาน คือ มีลูกสูบที่ใหญ่และจุน้ำมันได้มากกว่า ทำให้การตอบสนองการขับขี่ทำได้ดีขึ้น นุ่มนวลมากขึ้น และยังมีการแยกส่วนห้องบรรจุน้ำมันกับแก๊สอย่างชัดเจน ทำให้ไม่เกิดการผสมกันระหว่างน้ำมันกับแก๊สอีกด้วย นอกจากนี้ยังติดตั้งลูกสูบแบบไฮโฟลขนาด 46 มิลลิเมตร ช่วยให้การตอบสนองรวดเร็ว แม่นยำยิ่งขึ้น มาพร้อมสปริงหลังที่ออกแบบให้สัมพันธ์กับโช้คอัพรุ่นนี้โดยเฉพาะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนนไปยังห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น

โดยช่วงเช้าออกเดินทางจาก ฮุนได สำนักงานใหญ่ ใช้เส้นทางวิภาวดีรังสิต วิ่งถนนสายเอเซีย แล้วเลี้ยวซ้ายไปบางปะอินตรงไปจนถึง “วัดนิเวศธรรมประวัติ” ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน แล้วนั่งกระเช้าข้ามฝั่งแม่น้ำ เพื่อไหว้พระและชมความงดงามภายในบริเวณวัด ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นศิลปะแบบโกธิคสมัยยุโรป


หลังจากชมวัดนิเวศธรรมประวัติกันเรียบร้อยแล้วเราก็ได้เดินทางมารับประทานอาหารกลางวัน ณ “เรือนจรุง”อยุธยา โฮมสเตย์แนวคิดสโลว์ไลฟ์  ลิ้มรสชาติอาหารไทยฝีมือชาวบ้าน ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยทุ่งนาอันเขียวขจี

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง “วัดหน้าพระเมรุ” เยี่ยมชมความงดงามพร้อมเรียนรู้ประวัติศาตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งที่นี่เป็นเพียงวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายจากพม่าและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

ต่อจากนั้นก็เดินทางมาสักการะวัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดสุดท้ายของทริป ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดและมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากที่สุดวัดหนึ่งในอยุธยา เพราะมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงาม

ก่อนที่พวกเราจะจบทริปนี้กันยังพอมีเวลาแวะร้าน “The Summer House” ร้านกาแฟสุดชิค บรรยากาศดี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จิบกาแฟและเครื่องดื่มเย็นๆคลายร้อน กันก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพกับ ฮุนได เอช-วัน ช่วงล่างใหม่ อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ขับง่าย ช่วงล่างนุ่มนวลสะดวกสบายทุกการเดินทาง  

สำหรับลูกค้าที่ใช้รถยนต์ฮุนได เอช-วัน และ แกนด์ สตาร์เร็กซ์ สามารถนำรถยนต์เข้ามาเปลี่ยนชุดโช้คอัพและสปริงหลังใหม่ได้ ในราคา 24,880 บาท (รวมค่าแรงแล้ว) ที่ศูนย์บริการฮุนไดได้แล้วทั่วประเทศ

 

ปิดปรับปรุงระบบความคิดเห็นชั่วคราว ขออภัยในความไม่สะดวก หากลูกค้าต้องการเปิดใช้งานระบบ กรุณาติดต่อ 02-8323222 กด 2